Cybersecurity-ต้องรู้อะไรบ้าง

ก่อนเริ่มต้นสายงาน Cybersecurity ต้องรู้อะไรบ้าง

ส่อง Cybersecurity ต้องรู้อะไรบ้าง? ถึงเป็นผู้พิทักษ์ไซเบอร์

อยากทำอาชีพ Cybersecurity ต้องรู้อะไรบ้าง? ทำไม Cybersecurity ในองค์กรถึงเป็นสายงานที่มีความสำคัญและมีความต้องการสูง วันนี้ SOSECURE ขอพาทุกคนไปหาคำตอบกันว่า Cybersecurity ทำอะไร มีกี่ประเภท ถ้าอยากเปลี่ยนสายงานควรเสริมทักษะด้านไหน ไปจนถึง IT Security ทำอะไรบ้าง เหมือนหรือต่างกับ Cybersecurity อย่างไร ตามมาดูคำตอบไปพร้อม ๆ กัน

หาคำตอบ อยากทำตำแหน่งสุดท้าทาย Cybersecurity ต้องรู้อะไรบ้าง

ก่อนไปดูตำแหน่ง Cybersecurity ต้องรู้อะไรบ้าง? มาทำความเข้าใจก่อน ถึงแม้ว่า IT Security กับ Cybersecurity จะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ IT Security การรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีจะต้องมีการรักษาข้อมูลทั้งที่อยู่ในรูปแบบของ Digital Format หรือ Digital Information ให้เป็นความลับ รวมไปถึงการดูแลข้อมูลเหล่านั้นให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ

ขณะที่ Cybersecurity เป็นการทำงานเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของระบบคอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่าย เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่เหมาะสม อย่างการแก้ไข
การเปลี่ยนแปลง หรือการทำลายข้อมูล ด้วยเหตุนี้อาชีพ Cybersecurity จึงมีความสำคัญอย่างมากในยุคนี้และทุกองค์กรควรมี เพื่อพร้อมรับมือการโจมตีทางไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงและมีผลกระทบร้ายแรงต่อองค์กร ทำให้คนที่ทำอาชีพนี้ต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังต่อไปนี้

  • ความรู้เกี่ยวกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการ ซอฟต์แวร์ การเขียนโปรแกรม ไปจนถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Cybersecurity
  • เข้าใจรูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ในปัจจุบัน อย่างการเจาะระบบ การสร้างไวรัส หรือ Ransomware การโจมตีแบบเรียกค่าไถ่นั่นเอง
  • มีความรู้ความเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยข้อมูล เช่น กฎหมายความเป็นส่วนตัว (PDPA) กฎหมายลิขสิทธิ์ รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจค้นข้อมูล
  • มีทักษะในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาทางด้านความปลอดภัยของระบบ เพื่อค้นหาและแก้ไขข้อบกพร่องก่อนถูกโจมตีทางไซเบอร์
  • สามารถทำงานในสภาวะที่ต้องรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้

สำรวจประเภท Cybersecurity ที่ทุกองค์กรจำเป็นต้องให้ความสำคัญ

เมื่อทราบกันแล้วว่าตำแหน่ง Cybersecurity คืออะไร และถ้าอยากทำตำแหน่ง Cybersecurity ต้องรู้อะไรบ้าง?
คราวนี้ตาม SOSECURE มาดูกันว่าประเภท Cybersecurity ที่ทุกองค์กรควรมี เพื่อทำหน้าที่เฝ้าระวัง ควบคุม ปกป้องข้อมูลบนเครือข่ายและอุปกรณ์จากการถูกขโมยหรือโจมตีทางไซเบอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต มีประเภทไหนน่าสนใจบ้าง

การรักษาความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สาธารณสุข ไปจนถึงความปลอดภัยของประชาชน อย่างการโจมตีระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์ รัฐบาลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางการเงินอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่ง Critical Infrastructure Security จะเข้ามาช่วยยับยั้งและป้องกันภัยคุกคาม

คือเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันและตอบสนองต่อการละเมิดความปลอดภัยที่เกิดขึ้นในระบบคลาวด์ เพื่อรักษาข้อมูลสำคัญขององค์กร รวมถึงโครงสร้างแอปพลิเคชันที่อยู่ในระบบคลาวด์ให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์

เป็นการรักษาความปลอดภัยบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์จากบุคคลภายนอกที่พยายามเข้าถึง ละเมิด หรือโจรกรรมข้อมูลในระบบเครือข่าย ผ่านการตรวจจับและป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงจำกัดการเข้าถึงข้อมูลและแอปพลิเคชันที่อาจเป็นอันตรายนั่นเอง

สำหรับ Application Security ถือเป็นตัวช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยในระบบแอปพลิเคชันบนมือถือ จากภัยคุกคามและความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหรือการใช้งาน Application นอกจากจะช่วยให้แอปปลอดภัยแล้ว Application Security ยังตรวจสอบและป้องกันช่องโหว่ที่เป็นไปได้ในซอฟต์แวร์อีกด้วย

คือการรักษาความปลอดภัยบนอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) ที่มีการใช้งานตลอดเวลา เพราะถ้าเกิดการโจมตีจากภัยไซเบอร์ขึ้นมา แฮกเกอร์อาจเข้าถึงหรือควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเราได้ทั้งหมด ดังนั้นควรกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาความปลอดภัยบนอุปกรณ์เหล่านี้

Cybersecurity ในองค์กรมีหน้าที่อะไร ทำไมองค์กถึงให้ความสำคัญ

สำหรับใครที่วางแผนสมัครคอร์สอบรม Cyber Security เพื่อเพิ่มพูนความรู้ก่อนเปลี่ยนมาทำงานด้าน Cybersecurity แต่ไม่มั่นใจว่างานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ภายในองค์กรต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง? SOSECURE
มีคำตอบมาฝาก

  • ทำหน้าที่ตรวจสอบระบบเครือข่ายและประเมินความเสี่ยงทางไซเบอร์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อวางแผนรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
  • ทำการพัฒนาและปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพและทันสมัยมากยิ่งขึ้น
  • ทำหน้าที่ป้องกันการบุกรุกทางไซเบอร์ และจัดการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแผนการดำเนินงานที่เตรียมไว้ล่วงหน้า
    เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในองค์กร
  • ให้คำปรึกษาและการดำเนินการให้ตรงตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์
  • จัดฝึกอบรมพนักงานในองค์กรเพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

ไขคำตอบ ทักษะใดที่จำเป็นกับสายงาน Cybersecurity
ในองค์กรบ้าง

ตามที่ทราบกันว่างานด้าน Cybersecurity มีหน้าที่หลักคือการจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อปกป้องข้อมูลที่เป็นจุดอ่อนสำคัญจากอาชญากรไซเบอร์ ทำให้ผู้ที่ทำงานด้าน Cybersecurity ในองค์กร ควรมีทักษะดังต่อไปนี้

การบริหารจัดการระบบเครือข่าย

เพื่อเริ่มต้นอาชีพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ต้องจัดการกับความท้าทายด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่มีความซับซ้อนบนคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายภายในองค์การ การเรียนรู้เรื่องการเครือข่ายจะช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับด้านเทคนิคในการส่งข้อมูลซึ่งจะช่วยให้คุณปกป้องข้อมูลในระบบเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความรู้เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการและเครื่องจำลองเสมือน

อาชีพ Cybersecurity จำเป็นต้องมีความรู้เชิงลึกในสภาพแวดล้อมการทำงานของระบบปฏิบัติการ เช่น Windows, Linux, และ Mac OS โดยเฉพาะ เพื่อที่จะสามารถควบคุมการทำงานได้ทุกระบบปฏิบัติการ ขณะเดียวกันเครื่องจำลองเสมือน (Virtual Machines) จะช่วยให้ได้ฝึกฝนการทำงานด้าน Cybersecurity ในสภาพแวดล้อมที่เหมือนกับการใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์จริง ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มทักษะของคุณได้เป็นอย่างมาก

การควบคุมความปลอดภัยบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์

มีความเข้าใจวิธีการทำงานของเครือข่ายและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้สามารถดูแลระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างตรงจุด แม่นยำ และสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะการติดตั้งระบบ Network Security เพื่อปกป้องข้อมูลภายในองค์กรให้ปลอดภัย อย่าง Firewall และ Antivirus ที่ช่วยกรองและป้องกันการส่งข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าสู่
เครือข่าย

การเขียนโปรแกรม (Coding)

การมีความรู้เกี่ยวกับการเขียนโค้ด (Code) หรือการเขียนโปรแกรม นอกจากช่วยให้สร้างซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
รวมทั้งแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ ยังเข้าใจกระบวนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนระบบเครือข่ายได้
โดยภาษาในการเขียนโปรแกรมที่ควรเรียนรู้ เช่น

  • C และ C++ เป็นภาษาในการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐานที่ถูกออกแบบมาสำหรับการทำงานบนระบบปฏิบัติการ UNIX
  • Python เป็นภาษาโปรแกรมระดับสูงที่ถูกนำไปต่อยอดและใช้งานได้หลากหลาย ทั้งตรวจสอบเรื่อง Bug หรือค้นหาช่องโหว่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์
  • JavaScript เป็นภาษาพื้นฐานที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมและเว็บไซต์ต่าง ๆ
  • HTML เป็นอีกภาษาหนึ่งที่สายงาน Cybersecurity ควรเข้าใจ เพราะเป็นหนึ่งในภาษาที่ใช้เขียนเว็บไซต์

อยากเสริมทักษะ Cybersecurity ในองค์กร ควรสมัครเรียนคอร์สไหน?

ปัจจุบันมีหลายองค์กรที่ส่งเสริมทักษะ Cybersecurity ในองค์กรให้พนักงานผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมและคอร์สเรียนสร้างการรับรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่เกิดจากการรู้ไม่เท่าทันของพนักงาน ซึ่ง SOSECURE ในฐานะผู้ให้บริการด้าน Cybersecurity ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมากในการดำเนินการตรวจสอบและประเมินการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ มี Cybersecurity คอร์สเรียนที่ครอบคลุมทุกระดับเนื้อหาให้ผู้สนใจเลือกเรียนมากมาย เช่น

Cybersecurity Awareness Training

เป็นคอร์สเรียนที่จะทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และเข้าใจในความอันตรายของภัยคุกคามทางไซเบอร์ในหลากหลายรูปแบบ
รวมถึงแนวทางในการป้องกันหรือหลีกเลี่ยงภัยคุกคามทางไซเบอร์หลากหลายรูปแบบ ทำให้หลังเรียนจบคอร์สสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อป้องกันภัยทางไซเบอร์ได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง

Road To Cybersecurity

เป็นคอร์สเรียนที่เหมาะกับผู้ที่อยากเริ่มต้นสู่สายงาน Cybersecurity เพราะจะได้เรียนรู้ตั้งแต่เรื่อง Network, System และ Application ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้และต่อยอดในสายงานด้าน Cybersecurity นั่นเอง

Web Application Security and Secure Coding

คอร์สนี้จะพาไปเรียนรู้วิธีการโจมตีและการดูแลความปลอดภัยบน Web Application ในแง่มุมต่าง ๆ เช่น การทดสอบเจาะระบบ การป้องกัน (Secure Coding) และ Framework เป็นต้น เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากคอร์สเรียนไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนา Web Application Security ของตนเองได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Cybersecurity Analyst

สำหรับ Cybersecurity Analyst คอร์สนี้จะมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาตัวเองสู่การเป็นนักวิเคราะห์ความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ที่ดี นอกจากวิเคราะห์การโจมตีในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ยังสามารถโต้ตอบภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างทันท่วงที

Web Application Hacking and Penetration Testing

เป็นคอร์สเรียน Cybersecurity ที่สอนเกี่ยวกับการเจาะระบบ Web Application ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับความปลอดภัยของ Web Application และเจาะลึกถึง Web Application Hacking ในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงแนวทางการป้องกันการโจมตี Web Application เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้สิ่งต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้ในการวางแผนป้องกันภัยทางด้านไซเบอร์บน Web Application ได้อย่างเหมาะสม

นอกจากคอร์สเรียน Cybersecurity เหล่านี้แล้ว ทาง SOSECURE ยังมีคอร์สอื่น ๆ ให้ผู้สนใจเลือกเรียนเพื่อเสริมทักษะด้าน Cybersecurity โดยเฉพาะ ตั้งแต่คอร์ส Basic ไปจนถึงคอร์ส Advance เรียกว่าถ้าอยากวางแผนเส้นทางอาชีพ (Career Path) ตั้งแต่การศึกษาพื้นฐานและหลักการของความปลอดภัยทางไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้เครือข่ายคอมพิวเตอร์, เทคโนโลยีสารสนเทศ, การเขียนโปรแกรม, การทดสอบความปลอดภัย รวมถึงพัฒนาทักษะและความเชี่ยวชาญในสายงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ SOSECURE มีคอร์สเรียนให้เลือกครบ

ที่สำคัญการสมัครคอร์สเรียน Cybersecurity กับ SOSECURE ยังมีข้อดีอีกอย่าง นั่นคือผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติผ่าน Online Lab หรือ Cloud Platform ด้วยโปรแกรม Upve ซึ่งเป็นพื้นที่บนคลาวด์ที่ถูกใช้เพื่อทำการฝึกฝนหรือการทดลองทักษะในสภาพแวดล้อมที่เสมือนจริง หรือจะเรียนรู้ผ่าน Cyber Range ระบบจำลองยุทธทางไซเบอร์ เพื่อทำความเข้าใจรูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ กระบวนการตรวจจับภัยคุกคาม ไปจนถึงการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีต่าง ๆ ซึ่งหมาะกับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์เป็นอย่างมาก

สำหรับใครที่อยากทำงาน Cybersecurity ในองค์กรหรือต้องการเพิ่มพูนความรู้ด้าน Cybersecurity หรือสงสัยว่า IT Security ทำอะไรบ้าง คงได้คำตอบกันแล้วว่า Cybersecurity ต้องรู้อะไรบ้าง? หรืออาชีพ Cybersecurity ทำอะไร และเพื่อให้คุณได้คอร์สเรียนที่ตอบโจทย์และตรงใจ ทาง SOSECURE มีคอร์สเรียน Cybersecurity ให้เลือกหลากหลาย ซึ่งแต่ละคอร์สก็จะมีระดับของเนื้อหาที่เหมาะสมกับระดับผู้เรียนที่แตกต่างกันไป หากสนใจสามารถเข้าไปเยี่ยมชมคอร์สต่าง ๆ เพื่อเลือกคอร์สที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของตัวเองกันได้เลย

Share