Cybersecurity basic

5 พื้นฐานที่ต้องมีก่อนเริ่มสายงาน Cybersecurity

Cybersecurity เป็นสายงานที่มีความสำคัญและมีความต้องการสูง

Cybersecurity เป็นสายงานที่มีความสำคัญและมีความต้องการสูงในยุคปัจจุบัน

ผู้ที่ทำงานในสายงานนี้จำเป็นต้องมี ความรู้ความเข้าใจในระบบคอมพิวเตอร์

ระบบเครือข่าย และมีทักษะในการแก้ปัญหา

นอกจากการทดสอบความปลอดภัยและการหาช่องโหว่ในระบบแล้ว

นักทดสอบเจาะระบบยังมีหน้าที่ ที่สำคัญในการทดสอบว่า

มาตรการความปลอดภัยที่ใช้งานอยู่นั้นมีประสิทธิภาพแค่ไหน

และสามารถแนะนำวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการความปลอดภัยเหล่านั้น

หลาย ๆ องค์กรรวมถึง Facebook และ Microsoft

ก็ได้รับรู้ถึงความสำคัญของการทดสอบเจาะระบบ

และได้ใช้โปรแกรม Bug Bounty ซึ่งเป็นการให้รางวัลแก่

ผู้ที่สามารถค้นหาและรายงานช่องโหว่ในระบบของเขาได้

การทำงานแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการโจมตีจากผู้ไม่หวังดี

แต่ยังทำให้ระบบขององค์กรนั้นมีความปลอดภัยมากขึ้น

ซึ่งในที่สุดแล้วก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากการโจมตีทางไซเบอร์

รวมถึงความเสียหายที่เกี่ยวข้อง เช่น ความเสียหายต่อชื่อเสียงองค์กร

ความเสียหายทางการเงิน และความเสียหายที่เกี่ยวกับข้อมูลลูกค้า

นอกจากนั้น การมีทีมที่มีความสามารถในการทดสอบเจาะระบบ

ยังช่วยให้องค์กรได้ทราบถึงช่องโหว่ในระบบของตนเอง

เพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้ได้ทันท่วงที

ซึ่งสุดท้ายแล้วจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า และคู่ค้าอีกด้วย

ทำให้ Cybersecurity มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคนี้

และสายงานนี้เองก็มีความต้องการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นการเริ่มต้นสายงานทางด้านนี้ได้อย่างยั่งยืนควรเริ่มจากการมีพื้นฐานที่ดี

โดยการที่จะเริ่มต้นสายงาน Cybersecurity นั้นก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเสียทีเดียว

เพราะต้องมีความเข้าใจโครงสร้างพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ อยู่บ้าง

และไม่ว่าในอนาคตคุณอยากจะทำงานในสาย Red Team หรือ Blue Team

สิ่งที่ทุกคนควรเรียนรู้และมีพื้นฐานมากยิ่งขึ้นนั้นคือ

1.ระบบปฏิบัติการ (Operating System):

การทำความเข้าใจในโครงสร้างของระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้งาน เช่น Windows, Linux, MacOS รวมถึงการทำความเข้าใจในการจัดการเมมโมรี, การจัดการไฟล์ และการจัดการกระบวนการ (Process Management)

2.ระบบเครือข่าย (Networking):

ควรจะมีความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีพื้นฐานของระบบเครือข่าย

รวมถึง TCP/IP, HTTP, DNS, FTP, SSH และอื่นๆ

3.ภาษาคอมพิวเตอร์ (Programming Knowledge):

ความสามารถในการเขียนโค้ดเป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน

ภาษาโปรแกรมที่นิยมในด้านนี้เช่น Python, C++, Java, JavaScript

และรวมถึงภาษาสคริปต์ที่ใช้ในระบบปฏิบัติการต่างๆ

4.ความปลอดภัยของโปรแกรมและแอพลิเคชัน (Application Security ):

ความสามารถในการทำความเข้าใจและหาช่องโหว่ในโปรแกรม

เช่น SQL Injection, Cross-Site Scripting (XSS), Cross-Site Request Forgery (CSRF)

5.ความรู้และความเข้าใจในด้าน Cybersecurity (Cybersecurity Overview)

สิ่งที่สำคัญที่ทุกคนควรต้องทราบและเป็นก้าวแรกสู่สายงานด้านนี้

ไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจเกี่ยวกับภัยคุกคามต่างๆ และหัวใจสำคัญอย่าง

Cybersecurity Framework ที่เป็นต้นแบบในการรักษาความปลอดภัย

ไปถึงกระบวนการจัดการกับความเสี่ยง การรักษาความปลอดภัยด้วยรูปแบบที่หลากหลาย

การสร้างความปลอดภัยในระดับโครงข่าย การกำหนดสิทธิต่างๆ

และการเข้าใจถึงหลักการในการทดสอบระบบอีกด้วย

หากคุณกำลังสนใจเริ่มต้นในสายงานด้าน Cybersecurity

ทาง SOSECURE ไม่อยากให้คุณพลาด Cybersecurity 101

คอร์สที่จะทำให้คุณมีพื้นฐานด้าน Cybersecurity อย่างแข็งแกร็ง

เพื่อการต่อยอดได้อย่างยั่งยืนไม่ว่าจะเป็น RED TEAM หรือ BLUE TEAM

ในรูปแบบการเรียนออนไลน์แบบ LIVE เนื้อหาอัดแน่น 3 วันเต็ม

โดยเริ่มเรียนในวันที่ 28-30 มิถุนายน 2566

สอนโดย

อ.วัชรพล วงศ์อภัย

CEO / Founder SOSECURE co.,ltd

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน Cybersecurity มากกว่า 12 ปี

และมีประสบการณ์สอนทั้งภาครัฐและเอกชน

ปกติราคา 17,900.- บาท

เหลือเพียง 9,990.-บาท

(สามารถชำระผ่านบัตรเครดิตทุกธนาคาร และชำระผ่าน QR CODE)

พร้อมรับ Certificate จาก SOSECURE

หลังเรียนจบและผ่านบททดสอบต่างๆ

สามารถลงทะเบียนได้ที่

https://bit.ly/SOSCybersecurity101

พิเศษ !! Early Bird เฉพาะ 10 ท่านแรก

เหลือเพียง 7,990.- บาท

สอบถามข้อมูลได้ที่

>>>m.me/223132268321733

Tel : 061-564-5294

หรือ LINE : https://lin.ee/jjGLqz8

Website : www.sosecure.co.th

 

Share